ปั๊มลม หรือเครื่องอัดลมมีชื่อภาษาอังกฤษว่า Air Compressor ดำเนินการในการอัดลมให้มีแรงผลักดันสูงตามที่เราต้องการเพื่อนำไปใช้ประโยชน์และประยุคใช้ได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบลมในโรงงานอุตสาหกรรมตั้งแต่ขนาดเล็ก ตลอดจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ระบบนิวเมติกส์ และอุตสาหกรรมครัวเรือน เช่นร้านซ่อมรถ ซึ่งจะใช้เป็นปั๊มลมตระกูลลูกสูบ (Piston Air Compressor) เพราะใช้แรงดัน (Pressure) ไม่สูงมาก เป็นต้น ส่วนเครื่องอัดลมที่ใช้ในโรงงานนั้นส่วนมากแล้วจะใช้เป็นปั๊มลมแบบสกรู (Screw Air Compressor) ซึ่งจะใช้แรงลมที่มากกว่า โดยปกติแล้ว ปั๊มลมหรือเครื่องอัดอากาศ คือ อุปกรณ์บีบอัดอากาศจากบรรยากาศ เพื่อให้เกิดแรงดันสูงขึ้น และสามารถนำไปใช้ในแบบหนึ่งของ”พลังงาน”อากาศที่ถูกอัดสามารถนำไปใช้งานได้ดีเสมือนหนึ่งในสามทรัพยากรของโรงงาน ได้แก่ไฟฟ้า , น้ำประปาและลมอัดด้วยคุณค่าที่เหมาะสมและหลายหลากการใช้งานลมได้รับความนิยมอย่างมากในเครื่องปั๊มลมของการนำลมใช้เป็นตัวขับเครื่องจักรต่างๆ เช่น อุปกรณ์หุ่นยนต์ตระกูลต่างๆ
ปั้มลม คือ พลังงานใหม่ที่น่าศึกษา เพราะมีเครื่องอัดลมรองรับมากมาย เช่น ปืนลม สกัดคอนกรีตลม ปากกาลม ไขควงลม สว่านลม AIR DRILLS, ปืนเป่าลม AIR BLOW GUN, เครื่องยิงตะปูลม AIR STRAPLERS/AIR NAILERS ฯลฯ การใช้ปั๊มลมขนาดเล็กจึงเป็นที่นิยม เพราะสามารถใช้กับอุตสาหกรรมได้เป็นแหล่งพลังงานขับเคลื่อน เครื่องอัดลมของเครื่องกล ปั้มลมของเครื่องปั๊มลม หรือแม้กระทั้งหุ่นยนต์ ปั๊มลมขนาดเล็กสำหรับงานอุตสาหกรรม เครื่องอัดอากาศตามอู่ซ่อมรถ ร้านปะยาง ปปั๊มลมขนาดเล็กพ่นสีตามอู่ซ่อมสีรถยนต์ บริการล้างรถ เครื่องอัดอากาศสำหรับงานไม้ เฟอนิเจอร์ ตกแต่งภายใน หรือใช้ตามบ้านสำหรับงานอดิเรก พ่นสีโมเดล ใช้เครื่องอัดอากาศกับแอร์บลัช เพื่องานประกอบโมเดล ปั๊มลมขนาดเล็ก หรือเครื่องอัดลม เราควรมาดูความต้องการใช้งานปั้มลมให้เหมาะสมกับงาน
ปั้มลม คือ พลังงานใหม่ที่น่าศึกษา เพราะมีเครื่องอัดลมรองรับมากมาย เช่น ปืนลม สกัดคอนกรีตลม ปากกาลม ไขควงลม สว่านลม AIR DRILLS, ปืนเป่าลม AIR BLOW GUN, เครื่องยิงตะปูลม AIR STRAPLERS/AIR NAILERS ฯลฯ การใช้ปั๊มลมขนาดเล็กจึงเป็นที่นิยม เพราะสามารถใช้กับอุตสาหกรรมได้เป็นแหล่งพลังงานขับเคลื่อน เครื่องอัดลมของเครื่องกล ปั้มลมของเครื่องปั๊มลม หรือแม้กระทั้งหุ่นยนต์ ปั๊มลมขนาดเล็กสำหรับงานอุตสาหกรรม เครื่องอัดอากาศตามอู่ซ่อมรถ ร้านปะยาง ปปั๊มลมขนาดเล็กพ่นสีตามอู่ซ่อมสีรถยนต์ บริการล้างรถ เครื่องอัดอากาศสำหรับงานไม้ เฟอนิเจอร์ ตกแต่งภายใน หรือใช้ตามบ้านสำหรับงานอดิเรก พ่นสีโมเดล ใช้เครื่องอัดอากาศกับแอร์บลัช เพื่องานประกอบโมเดล ปั๊มลมขนาดเล็ก หรือเครื่องอัดลม เราควรมาดูความต้องการใช้งานปั้มลมให้เหมาะสมกับงาน
ปั๊มลมหรือเครื่องอัดอากาศแบบลูกสูบ (Piston Air Compressor)
นับว่าเป็นปั๊มลมที่นิยมใช้งานมากด้วยความเหมาะสมต่อการใช้งานและมูลค่าที่ไม่สูงมากนักแถมยังสามารถขนส่งได้สะดวกอีกด้วย โดยปั๊มลมขนาดเล็กชนิดนี้สามารถสร้างความดันหรือแรงกระตุ้นลมได้ตั้งแต่ 1 bar ไปจนถึง 1,000 bar เลยทีเดียว โดยแรงอัดจะขึ้นอยู่กับจำนวนขั้นของการอัด ยิ่งขั้นในการอัดมากก็จะสามารถสร้างแรงอัดได้สูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง สำหรับปั๊มลมหรือเครื่องปั๊มลมแบบลูกสูบ ยังแบ่งออกเป็นประเภทย่อยๆได้อีกอย่างเช่น Booster Air Compressor, High Pressure Air Compressor ปั๊มลมแรงดันสูงแต่ให้เสียงที่เงียบ เพราะโดยปกติแล้วปั๊มลมหมู่ลูกสูบนั้นจะมีจุดอ่อนอย่างหนึ่งคือเสียงดังขณะเครื่องทำงาน
วิถีทางเลือกซื้อเครื่องอัดลม เราต้องเลือกดูงานที่เราจะใช้เราต้องการเครื่องอัดอากาศที่แรงดันมากน้อยขนาดไหน ปริมาณลมที่ต้องการมาก ความสม่ำเสมอของงาน หรือปริมาณการจ่ายลม ลมที่ใช้ต้องบริสุทธิ์ระดับไหน เช่น การประจำการของช่างไม้ ใช้ปั้มลูกสูบ อาจจะต้องการแรงลมมากพอดี อาจจะแตกต่างเรื่องความต่อเนื่องของงานทำให้ เครื่องปั๊มลมขนาดของถังบรรจุลมที่ใหญ่ สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง เครื่องก็จะไม่ต้องทำงานหนักคือเครื่องอัดลมทำงานบ่อย เมื่อความดันหรือปริมาณลมลดต่ำลง หรือ จะใช้เครื่องอัดลมกับแอร์บลัช พื้นที่การใช้งานมีส่วนสำคัญ เช่น แหล่งท้องที่ บ้านพักอาศัย อาจก่อให้เกิดความรำคาญใจได้ หากต้องเลือก ระหว่าง ปั้มลมสายพาน กับโรตารี่ (Rotary) ปั้มลมสายพานจะเสียงเบากว่าปั๊มลมโรตารี่ (Rotary) หากต้องการลมที่มีความสะอาด ใช้ปั๊มลมขนาดเล็กแบบ ไดอะเฟรม เพราะลมจะไม่ได้สัมผัสกับโลหะเลย แต่ให้แรงลมน้อย ใช้กับอุดสาหกรรมเคมี อาจมีอาการลมขาดช่วงบ้าง ส่วนปั้มลมแบบสกรูเราจะพบเห็นตามโรงงานเป็นส่วนใหญ่ ให้แรงลมต่อเนื่องและมีความดันตามขนาดของตู้ ฯลฯ
การเลือกซื้อปั๊มลมและประเภทปั๊มลม
ปั๊มลมสามารถจำแนกเป็น 6 ประเภท
1. ปั๊มลมแบบลูกสูบ PISTON AIR COMPRESSOR เป็นเครื่องอัดลมหรือปั๊มลมที่นิยมใช้ถือว่าเป็นปั๊มลมที่ใช้กันมากที่สุดเนื่องจากศักยภาพอัดลม คือสร้างความดันหรือแรงดันได้ตั้งแต่ 1บาร์ (bar)ไล่ระดับไปจนถึงเป็นพันบาร์(bar) เป็นเหตุให้ปั๊มลมแบบลูกสูบทำได้ตั้งแต่ความดันต่ำ ความดันปานกลาง จนไปถึงความดันสูง มีแบบใช้สายพาน จะให้เสียงเงียบกว่าแบบ โรตารี่ ที่มีมอเตอร์ในตัว จุดเด่นของโรตารี่คือได้ลมใช้งานที่เร็วกว่าแบบปั๊มลมสายพาน
2.ปั้มลมแบบสกรู (SCREW COMPRESSOR)
เป็นที่นิยมในโรงงาน ตัวเครื่องมีการผลิตที่มีคุณภาพสูงในการผลิตโรเตอร์ ตัวเครื่องจะ ไม่มีลิ้นในการเปิดปิด แต่ต้องการระบบถ่ายเทความร้อนที่ดีออกจากปั้มมีทั้งระบบระบายความร้อนด้วยอากาศหรือใช้น้ำถ่ายเทความร้อนหากเป็นเครื่องความจุใหญ่ ปั้มลมจะสามารถจ่ายลม 170 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) อีกทั้งสร้างความดันได้ถึง 10 บาร์
3. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบไดอะเฟรม (DIAPHARGM COMPRESSOR)
เป็นปั๊มลมที่ใช้ตัวไดอะแฟรมทำให้การดำเนินการของลูกสูบและหัวดูดอากาศแยกออกจากกัน ดังนั้นลมที่ถูกดูดเขาในปั๊ม หรืออัดอากาศ จะไม่ได้มีการโดนหรือสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะ และลมที่ได้จะไม่มีการผสมน้ำมันหล่อลื่นแต่จะไม่สามารถสร้างแรงดันได้สูง จุดดีคือลมที่ได้จากปั๊มประเภทนี้จึงมีความปลอดภัยมากและมักใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเคมี และอาจะใช้ในการอุสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำเนื่องจากเสียงที่เบากว่าแบบลูกสูบ
4. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบใบพัดเลื่อน (SLIDING VANE ROTARY COMPRESSOR)
ราคาปั๊มลมชนิดนี้จุดเด่นคือเสี่ยงจะไม่ดังการทำงานของการหมุนจะเรียบมีความต่อเนื่องการอัดอากาศคงที่ ไม่มีลิ้นหรือวาวล์ในการเปิดปิดในพื้นที่จำกัดทำให้ไวต่อความร้อน หากต้องการประสิทธิภาพที่ดีจะต้องผลิตด้วยความประณีต สามารถกระจายลม 4-100 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) ส่วนความดันทำได้ที่ 4-10 บาร์(Bar)
5. ปั้มลมแบบใบพัดหมุน (ROOTS COMPRESSOR)
เครื่องปั๊มลมนี้จะมีใบพัดหมุน 2 ตัว เมื่อโรเตอร์ 2 ตัวทำการหมุน สภาพอากาศจะถูกดูดจากฝากหนึ่งไปยังอีกฝากหนึ่ง โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงปริมาตร ทำให้อากาศไม่ถูกบีบหรืออัดตัว แต่อากาศจะถูกอัดตัวก็ต่อเมื่ออากาศได้ถูกส่งเข้าไปยังถังเก็บลม ปั้มลมแบบนี้ต้นทุนการผลิตจะแพง ไม่มีลิ้น ไม่ต้องการหล่อลื่นระหว่างที่ทำงาน แต่ต้องมีการระบายความร้อนที่ดี
6. ปั้มลมแบบกังหัน (RADIAL AND AXIAL FLOW COMPRESSOR)
ขายปั๊มลมปั้มลมแบบนี้จะได้อัตราการจ่ายลมที่มาก ประเภทเป็นใบพัดกังหันดูดเข้ามาจากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่งด้วยการหมุนความเร็วสูง ประเภทใบพัดจึงมีส่วนสำคัญเรื่องอัตราการจ่ายลมด้วย
======================================================
นับว่าเป็นปั๊มลมที่นิยมใช้งานมากด้วยความเหมาะสมต่อการใช้งานและมูลค่าที่ไม่สูงมากนักแถมยังสามารถขนส่งได้สะดวกอีกด้วย โดยปั๊มลมขนาดเล็กชนิดนี้สามารถสร้างความดันหรือแรงกระตุ้นลมได้ตั้งแต่ 1 bar ไปจนถึง 1,000 bar เลยทีเดียว โดยแรงอัดจะขึ้นอยู่กับจำนวนขั้นของการอัด ยิ่งขั้นในการอัดมากก็จะสามารถสร้างแรงอัดได้สูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง สำหรับปั๊มลมหรือเครื่องปั๊มลมแบบลูกสูบ ยังแบ่งออกเป็นประเภทย่อยๆได้อีกอย่างเช่น Booster Air Compressor, High Pressure Air Compressor ปั๊มลมแรงดันสูงแต่ให้เสียงที่เงียบ เพราะโดยปกติแล้วปั๊มลมหมู่ลูกสูบนั้นจะมีจุดอ่อนอย่างหนึ่งคือเสียงดังขณะเครื่องทำงาน
วิถีทางเลือกซื้อเครื่องอัดลม เราต้องเลือกดูงานที่เราจะใช้เราต้องการเครื่องอัดอากาศที่แรงดันมากน้อยขนาดไหน ปริมาณลมที่ต้องการมาก ความสม่ำเสมอของงาน หรือปริมาณการจ่ายลม ลมที่ใช้ต้องบริสุทธิ์ระดับไหน เช่น การประจำการของช่างไม้ ใช้ปั้มลูกสูบ อาจจะต้องการแรงลมมากพอดี อาจจะแตกต่างเรื่องความต่อเนื่องของงานทำให้ เครื่องปั๊มลมขนาดของถังบรรจุลมที่ใหญ่ สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง เครื่องก็จะไม่ต้องทำงานหนักคือเครื่องอัดลมทำงานบ่อย เมื่อความดันหรือปริมาณลมลดต่ำลง หรือ จะใช้เครื่องอัดลมกับแอร์บลัช พื้นที่การใช้งานมีส่วนสำคัญ เช่น แหล่งท้องที่ บ้านพักอาศัย อาจก่อให้เกิดความรำคาญใจได้ หากต้องเลือก ระหว่าง ปั้มลมสายพาน กับโรตารี่ (Rotary) ปั้มลมสายพานจะเสียงเบากว่าปั๊มลมโรตารี่ (Rotary) หากต้องการลมที่มีความสะอาด ใช้ปั๊มลมขนาดเล็กแบบ ไดอะเฟรม เพราะลมจะไม่ได้สัมผัสกับโลหะเลย แต่ให้แรงลมน้อย ใช้กับอุดสาหกรรมเคมี อาจมีอาการลมขาดช่วงบ้าง ส่วนปั้มลมแบบสกรูเราจะพบเห็นตามโรงงานเป็นส่วนใหญ่ ให้แรงลมต่อเนื่องและมีความดันตามขนาดของตู้ ฯลฯ
การเลือกซื้อปั๊มลมและประเภทปั๊มลม
ปั๊มลมสามารถจำแนกเป็น 6 ประเภท
1. ปั๊มลมแบบลูกสูบ PISTON AIR COMPRESSOR เป็นเครื่องอัดลมหรือปั๊มลมที่นิยมใช้ถือว่าเป็นปั๊มลมที่ใช้กันมากที่สุดเนื่องจากศักยภาพอัดลม คือสร้างความดันหรือแรงดันได้ตั้งแต่ 1บาร์ (bar)ไล่ระดับไปจนถึงเป็นพันบาร์(bar) เป็นเหตุให้ปั๊มลมแบบลูกสูบทำได้ตั้งแต่ความดันต่ำ ความดันปานกลาง จนไปถึงความดันสูง มีแบบใช้สายพาน จะให้เสียงเงียบกว่าแบบ โรตารี่ ที่มีมอเตอร์ในตัว จุดเด่นของโรตารี่คือได้ลมใช้งานที่เร็วกว่าแบบปั๊มลมสายพาน
2.ปั้มลมแบบสกรู (SCREW COMPRESSOR)
เป็นที่นิยมในโรงงาน ตัวเครื่องมีการผลิตที่มีคุณภาพสูงในการผลิตโรเตอร์ ตัวเครื่องจะ ไม่มีลิ้นในการเปิดปิด แต่ต้องการระบบถ่ายเทความร้อนที่ดีออกจากปั้มมีทั้งระบบระบายความร้อนด้วยอากาศหรือใช้น้ำถ่ายเทความร้อนหากเป็นเครื่องความจุใหญ่ ปั้มลมจะสามารถจ่ายลม 170 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) อีกทั้งสร้างความดันได้ถึง 10 บาร์
3. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบไดอะเฟรม (DIAPHARGM COMPRESSOR)
เป็นปั๊มลมที่ใช้ตัวไดอะแฟรมทำให้การดำเนินการของลูกสูบและหัวดูดอากาศแยกออกจากกัน ดังนั้นลมที่ถูกดูดเขาในปั๊ม หรืออัดอากาศ จะไม่ได้มีการโดนหรือสัมผัสกับส่วนที่เป็นโลหะ และลมที่ได้จะไม่มีการผสมน้ำมันหล่อลื่นแต่จะไม่สามารถสร้างแรงดันได้สูง จุดดีคือลมที่ได้จากปั๊มประเภทนี้จึงมีความปลอดภัยมากและมักใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเคมี และอาจะใช้ในการอุสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำเนื่องจากเสียงที่เบากว่าแบบลูกสูบ
4. เครื่องอัดลมหรือ ปั้มลมแบบใบพัดเลื่อน (SLIDING VANE ROTARY COMPRESSOR)
ราคาปั๊มลมชนิดนี้จุดเด่นคือเสี่ยงจะไม่ดังการทำงานของการหมุนจะเรียบมีความต่อเนื่องการอัดอากาศคงที่ ไม่มีลิ้นหรือวาวล์ในการเปิดปิดในพื้นที่จำกัดทำให้ไวต่อความร้อน หากต้องการประสิทธิภาพที่ดีจะต้องผลิตด้วยความประณีต สามารถกระจายลม 4-100 ลูกบาศก์เมตรต่อนาที (m3/min) ส่วนความดันทำได้ที่ 4-10 บาร์(Bar)
5. ปั้มลมแบบใบพัดหมุน (ROOTS COMPRESSOR)
เครื่องปั๊มลมนี้จะมีใบพัดหมุน 2 ตัว เมื่อโรเตอร์ 2 ตัวทำการหมุน สภาพอากาศจะถูกดูดจากฝากหนึ่งไปยังอีกฝากหนึ่ง โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงปริมาตร ทำให้อากาศไม่ถูกบีบหรืออัดตัว แต่อากาศจะถูกอัดตัวก็ต่อเมื่ออากาศได้ถูกส่งเข้าไปยังถังเก็บลม ปั้มลมแบบนี้ต้นทุนการผลิตจะแพง ไม่มีลิ้น ไม่ต้องการหล่อลื่นระหว่างที่ทำงาน แต่ต้องมีการระบายความร้อนที่ดี
6. ปั้มลมแบบกังหัน (RADIAL AND AXIAL FLOW COMPRESSOR)
ขายปั๊มลมปั้มลมแบบนี้จะได้อัตราการจ่ายลมที่มาก ประเภทเป็นใบพัดกังหันดูดเข้ามาจากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่งด้วยการหมุนความเร็วสูง ประเภทใบพัดจึงมีส่วนสำคัญเรื่องอัตราการจ่ายลมด้วย
======================================================